หลวงปู่บูญ วัดกลางบางแก้ว
บันทึกส่วนที่เป็นเครื่องยานั้นตามตำรับได้บรรยายเป็นโครงกลอนถึงตัวยาว่า "จินดามณีโอสถอันพิลาสประกอบดอกคราด ดอกจันทร์ เกสรบุษบัน เปราะหอมกำยาน โกฐสอ โกฐเขมา ทองน้ำประสาน เปลือกกุ่มชลธาร กรุงเขมาเท่ากัน ผสมแล้วตำบดพิมเสม ชะมด น้ำผึ้งรวงรัน กฤษณา น้ำมะนาว น้ำมะเขือขื่นคั้น ผสมยาเข้าด้วยกัน บดปั้นตากกิน เป็นยาวาสนา เลิศล้ำตำราในโลกแผ่นดิน อุปเท่ห์กล่าวไว้ ผู้ใดได้กินจะสวัสดิ์โสภิณกว่าคนทั้งหลาย พัสดุเงินทอง จักพูนกูลนอง กว่าโลกหญิงชายนำมาบูชา อหิวาต์ก็มิวาย ระงับอันตราย ทั้งสี่กิริยาโทษหนักเท่าหนัก มาตร์แม้นประจักษ์ ถึงกาลมรณา ถ้าแม้นใครกิน ซึ่งยาวาสนากลับน้อยถอยคลา เคลื่อนคลายหายเอย “
การสร้างยาจินดามณี มีการบันทึกว่า หลวงปู่บุญ ได้สร้างยาจินดามณีเพียง 2 ครั้งเท่านั้นคือ ในปี พ.ศ.2435 และปีพ.ศ. 2476 เพราะความยุ่งยากในการสร้างตามตำราโบราณ เมื่อได้ตัวยาตามต้องการแล้ว จึงจัดการทำพิธี ในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ กลางเดือน 12 ซึ่งหากปีใดได้ราชาฤกษ์ หรือเพชรฤกษ์ จัดว่าดีเยี่ยม ต้องจัดเครื่องสังเวยเทวดา บัตรพลีต่างๆ รวมทั้งราชวัตรฉัตรธง ภายในพระอุโบสถมีสายสิญจน์รอบพระอุโบสถ แต่ละทิศให้ลงยันต์ประจำทิศด้วยผ้าแดงเอาไว้ ด้านหน้าพระอุโบสถให้ลงยันต์ตรีนิสิงเห และยันต์จินดามณีประกอบไว้เป็นพิเศษด้วย